Carsome Newsroom

View Original

กลุ่ม CARSOME ฉลอง 7 ปี แห่งความสำเร็จและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนตลาดรถยนตร์มือสอง

มาเลเซีย & สิงคโปร์, 4 สิงหาคม 2565 - กลุ่ม CARSOME แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉลองครบรอบ 7 ปี ด้วยยอดซื้อขายรถยนต์มือสองมากกว่า 260,000 คัน พร้อมให้บริการลูกค้าหลายล้านคนผ่านแพลตฟอร์ม นับตั้งแต่การก่อตั้งขึ้นในปี 2558 CARSOME ก็ได้พลิกโฉมตลาดรถยนต์มือสองและขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคด้วยการริเริ่มนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้นำเสนอเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าสำหรับการเลือกซื้อขายรถยนต์มือสอง ด้วยพันธกิจในการส่งมอบความน่าเชื่อถือ ทางเลือกที่หลากหลาย และ ความโปร่งใสให้กับลูกค้า

จุดเริ่มต้น

เอริค เฉิง และ จุน อี ทีโอ ถ่ายรูปกับโลโก้แรกของ CARSOME ในปี 2558

เส้นทางของ CARSOME เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เมื่อผู้ร่วมก่อตั้ง เอริค เฉิง (Eric Cheng) และ จุน อี ทีโอ หรือ เจที (Jiun Ee Teoh: JT) ได้พบปะเเลกเปลี่ยนประสบการณ์การซื้อรถยนต์มือสองที่ยากลำบากในฐานะลูกค้าสองคนที่เคยผิดหวังมาก่อน และต่างตระหนักได้ว่าประสบการณ์ดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่พบเจอได้โดยทั่วไป แต่กลายเป็นบรรทัดฐานของการซื้อขายรถยนต์มือสอง พวกเขาจึงตัดสินใจหาทางแก้ไข โดยตั้งใจที่จะทำให้กระบวนการซื้อขายมาอยู่บนโลกดิจิทัลและมีมาตรฐานมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาจึงได้ก่อตั้ง CARSOME ขึ้นมาพร้อมพันธกิจที่ตั้งใจจะพลิกโฉมการซื้อขายรถยนต์มือสองและสร้างประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ ด้วยการนำเสนอความน่าเชื่อถือ ทางเลือกที่หลากหลาย และ ความโปร่งใสให้กับลูกค้า

ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา พันธกิจทั้งสามนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ที่รถยนต์คันแรกถูกขายผ่านแพลตฟอร์มจนถึงคันที่ 260,000 และอีกหลายคันต่อจากนี้ CARSOME ได้กลายเป็นเเบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับภูมิภาค โดยลูกค้าหลายล้านคนไว้วางใจและเลือกใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม จนวันนี้ CARSOME ได้เติบโตเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดูได้จากจำนวนหรือมูลค่าการซื้อขายรถยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์มที่มีมากกว่า 18,000 คันต่อเดือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,700 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาทต่อปี

เหตุการณ์สำคัญและความสำเร็จ

เหตุการณ์สำคัญ และความสำเร็จของ CARSOME ตลอดการเดินทางในรอบ 7 ปี

จากมาเลเซียสู่ระดับภูมิภาค CARSOME เริ่มต้นกิจการในมาเลเซียด้วยการเปิดตัวธุรกิจรับซื้อรถยนต์มือสองในปี 2558 และเปิดศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์แห่งแรกแรกในปี 2559 ซึ่ง CARSOME ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในบ้านเกิดของตัวเองและไม่นานก็กลายมาเป็นแพลตฟอร์มซื้อรถยนต์มือสองอันดับต้น ๆ ของมาเลเซียในปี 2561 หลังจากนั้น บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจเข้าไปในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย ในปี 2559 2562 และ 2563 ตามลำดับ ในวันนี้ CARSOME ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดในทุกประเทศ โดยส่วนแบ่งตลาดที่อยู่นอกมาเลเซียได้กลายมาเป็นเป็นฟันเฟืองที่แข็งแกร่งที่สุดในการขับเคลื่อนการเติบโตของ CARSOME และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯ มากกว่าร้อยละ 40 ของรายได้รวมทั้งหมด

จากธุรกิจค้าส่งสู่ธุรกิจค้าปลีก ในปี 2563 CARSOME ได้ทดลองเปิดตัวธุรกิจขายรถยนต์มือสองในมาเลเซีย ด้วยการเปิดศูนย์บริการซื้อ-ขายรถมือสองครบวงจรแห่งเเรก ในช่วงเวลาเดียวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ธุรกิจขายรถยนต์มือสองของ CARSOME ได้ขยายออกไปสู่ 4 ประเทศในภูมิภาค ซึ่งได้กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของบริษัทฯ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่มากกว่า 10 เท่า และเป็นเสาหลักสำคัญของการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากธุรกิจรับซื้อรถมือสองที่มีอยู่ ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจขายรถยนต์มือสองคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 25 ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งให้กับกลุ่ม CARSOME ทั้งในระยะกลางและระยะยาว และเมื่อเร็ว ๆ นี้ CARSOME ได้เปิดตัว PJ Automall หนึ่งในศูนย์บริการพร้อมสร้างประสบการณ์ซื้อ-ขายรถยนต์ออฟไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเเข็งแกร่งให้กับธุรกิจขายรถยนต์มือสองที่มอบประสบการณ์ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์อย่างครบครันให้กับลูกค้า

พิธีเปิด CARSOME PJ Automall อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564

ขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “Phygital” CARSOME เดินหน้าขยายธุรกิจด้วยศูนย์ตรวจสอบสภาพรถเพื่อประเมินราคาและศูนย์บริการซื้อขายรถมือสองมากกว่า 120 แห่งใน 4 ประเทศที่เชื่อมต่อกันผ่านศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค ในปี 2564 CARSOME ได้เปิดตัวศูนย์ปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสองครบวงจรแห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยพนักงานของ CARSOME ได้ร่วมกันโหวตให้ใช้ชื่อว่า CARSOME Certified Lab ด้วยความสามารถในการซ่อมแซมรถยนต์มากกว่า 2,000 คันต่อเดือน และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น CARSOME ยังได้วางแผนเปิดตัว CARSOME Certified Lab อีก 3 แห่งภายในปีนี้ โดยรวมถึง อินโดนีเซีย และประเทศไทยด้วย

เปิดตัว คาร์ซัม อะคาเดมี่ (CARSOME Academy) ในปี 2564 CARSOME ได้ก่อตั้งคาร์ซัม อะคาเดมี่ ขึ้นพร้อมทั้งต้อนรับนักเรียนชุดแรกในมาเลเซีย โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากเจที ผู้ร่วมก่อตั้ง โดยมีการฝึกอบรมด้านเทคนิคให้กับเยาวชนชาวมาเลเซียพร้อมทั้งรับประกันโอกาสในการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการรับรองโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ ประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวิชาชีพที่สามารถเทียบโอนสู่คุณวุฒิการศึกษา (Recognition of Prior Achievement Center) CARSOME ยังได้เปิดตัว คาร์ซัม อะคาเดมี่ ในอินโดนีเซียและประเทศไทยในปี 2565 เพื่อส่งเสริมศักยภาพแรงงานและสร้างโอกาสการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น จนถึงวันนี้ คาร์ซัม อะคาเดมี่ ได้จัดหลักสูตรอบรมให้แก่นักเรียนแล้วมากกว่า 1,500 คน หรือคิดเป็นเวลาการฝึกอบรมมากกว่า 6,000 ชั่วโมง

คาร์ซัม อะคาเดมี่ ในประเทศไทย

การเติบโตของครอบครัว CARSOME ในปี 2565 CARSOME ได้เข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจผ่านการซื้อกิจการ ของ iCar Asia ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์และสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Wapcar แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและผู้ทำคอนเท้นต์ด้านยานยนต์ชั้นนำในภูมิภาค และได้ร่วมถือหุ้น 51% ของ CarTimes ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำในสิงคโปร์การันตีด้วยรางวัลและประสบการณ์ดำเนินงานมาแล้วหลายสิบปี ปัจจุบัน CARSOME มียอดผู้เข้าใช้แพลตฟอร์มมากกว่า 14 ล้านคนต่อเดือน และมีเครือข่ายตัวเเทนจำหน่ายมากกว่า 20,000 ราย ซึ่ง CARSOME ได้นำเสนอโซลูชั่นที่ดีสุดสู่ตลาดด้วยการบูรณาการข้อมูลระหว่างพันธมิตร เพื่อส่งมอบคำมั่นสัญญาของ CARSOME ให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น

มีความ ‘กระหาย’ ข้อมูลอยู่เสมอ นวัตกรรมการเก็บข้อมูลและเทคโนโลยีถือเป็นหัวใจสำคัญของ CARSOME ในการขยายธุรกิจ การสร้างผลกำไร และการทำกลยุทธ์ต่างๆ CARSOME มีความกระหายข้อมูลใหม่ ๆ รวมถึงเสริมสร้างความสามารถของเทคโนโลยีอยู่เสมอเพื่อก่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ข้อมูลธุรกรรม บันทึกการตรวจสภาพรถและประวัติบนโลกดิจิทัลของลูกค้า (Digital Footprint) ตลอดระยะเวลาผ่านมา ได้ช่วยสร้างชุดข้อมูลธุรกรรมระหว่างกันที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เช่น การประเมินความต้องการรถยนต์ อัลกอริธึมในการกำหนดราคาอัตโนมัติ การนำเสนอข้อมูลที่ปรับแต่งตามความต้องการแต่ละบุคคล ซึ่งนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันท่ามกลางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรถยนต์มือสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อีกหนึ่งความสำเร็จ ได้รับใบอนุญาตธนาคารดิจิทัลในมาเลเซีย ล่าสุด CARSOME ได้ชนะการประมูลใบอนุญาตธนาคารดิจิทัล (Digital Banking License) ชุดแรก ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสมาคมที่นำโดย KAF Investment Bank ซึ่งเป็นกลุ่มสมาคมที่รวมตัวกันเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการรวมกลุ่มทางการเงินในมาเลเซีย

ขับเคลื่อน CARSOME สู่โลกอนาคต

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถยนต์ไม่เพียงแต่เป็นยานพาหนะเพื่อความคล่องตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสร้างรายได้ สนับสนุนเสรีภาพ และสร้างโอกาสทางอาชีพอีกด้วย โดย CARSOME ยังยืนยันที่จะให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่แท้จริง และสร้างธุรกิจที่เติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้า

เฉิง กล่าวสรุปว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ในช่วงภาวะถดถอย แต่ความต้องการรถยนต์มือสองยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ CARSOME เชื่อมั่นว่าเราจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนลูกค้ารายได้ปานกลางที่เพิ่มมากขึ้น การรุกตลาดของอุตสากรรมยานยนต์ และบทบาทของดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น”

“การเดินทางของ CARSOME มาจนถึงวันนี้เป็นเส้นทางที่น่าประทับใจ ระหว่างการเดินทาง เรามีช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจเมื่อเราทำได้มากกว่าช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ไปจนถึงการนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ในอุตสาหกรรมที่เคยถูกขับเคลื่อนด้วยแนวทางการปฏิบัติแบบเดิม ๆ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 7 ปีแล้ว เเต่พวกเราจะยังคงเดินหน้าส่งมอบการบริการที่ไร้กังวลให้กับลูกค้า ในทุกขั้นตอนการซื้อขายและการเป็นเจ้าของรถยนต์มือสอง” เฉิง กล่าวเสริม

#####